ข้อมูลทั่วไปของชุมชน
ภูมิหลัง/ตำนานความเป็นมาของชุมชน
เดิมบ้านหนองหิน เมื่อ พ.ศ. 2480 มีพ่อค้าขายน้ำยาย้อมผ้าชื่อนายอ้ม
,นายเหลือก กัดกุมภา ,
นายดำ เกิ่นเกิด และนายดี ทองเนตร ได้เดินทางมาจากบ้านบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบ
จังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างการเดินทางได้พักผ่อนเอาแรงเพื่อจะได้เดินทางไปค้าขายต่อ และในระหว่างนั้นได้มองเห็นความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ และพื้นที่ดังกล่าวก็ไม่มีเจ้าของพ่อค้าจึงชักชวนกันเพื่อมาสร้างหลักปักฐานในบริเวณนั้น และได้ตั้งชื่อหมู่บ้านครั้งแรกเป็นบ้านหนองกัญชาแต่เนื่องจากต้องประสบกับภัยแล้งชาวบ้านขาดน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคจึงได้ย้ายถิ่นฐานอีกครั้งหนึ่งซึ่งห่างจากบ้านหนองกัญชาเดิมประมาณ 2 กิโลเมตร พร้อมกับตั้งชื่อหมู่บ้านใหม่เป็นบ้านหนองหินจนถึงปัจจุบัน
นายดำ เกิ่นเกิด และนายดี ทองเนตร ได้เดินทางมาจากบ้านบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบ
จังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างการเดินทางได้พักผ่อนเอาแรงเพื่อจะได้เดินทางไปค้าขายต่อ และในระหว่างนั้นได้มองเห็นความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ และพื้นที่ดังกล่าวก็ไม่มีเจ้าของพ่อค้าจึงชักชวนกันเพื่อมาสร้างหลักปักฐานในบริเวณนั้น และได้ตั้งชื่อหมู่บ้านครั้งแรกเป็นบ้านหนองกัญชาแต่เนื่องจากต้องประสบกับภัยแล้งชาวบ้านขาดน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคจึงได้ย้ายถิ่นฐานอีกครั้งหนึ่งซึ่งห่างจากบ้านหนองกัญชาเดิมประมาณ 2 กิโลเมตร พร้อมกับตั้งชื่อหมู่บ้านใหม่เป็นบ้านหนองหินจนถึงปัจจุบัน
อาณาเขต
บ้านหนองหิน หมู่ที่ 6
มีลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบเหมาะสำหรับการเพาะปลูกข้าว ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย
ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา บ้านหนองหินมีแหล่งน้ำธรรมชาติประจำหมู่บ้าน จำนวน
1 บ่อ เรียกว่าหนองหิน บ้านหนองหินมีลำห้วยสาธารณะห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1-2
กิโลเมตร
e
ทิศเหนือ ติดกับเขตบ้านหนองหินเหนือ
หมู่ที่ 15 ต.หนองกุง
อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ
e
ทิศใต้ ติดกับเขตบ้านห้วยเสียว ต.หนองงูเหลือม อ.เบญจลักษ์
จ.ศรีสะเกษ
e
ทิศตะวันตก ติดกับเขตบ้านโนนจักจั่น ต.หนองงูเหลือม อ.เบญจลักษ์
จ.ศรีสะเกษ
e
ทิศตะวันออก ติดกับบ้านโคกสะอาด หมู่ที่ 7
ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ
ภูมิสังคมของชุมชน
ลักษณะภูมิประเทศ / อากาศ
บ้านหนองหิน
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง มีลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย
ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
มี 3 ฤดู คือ
ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว
สภาพทางสังคม ภาษา
วัฒนธรรม ประเพณี
-ประชาชนในพื้นที่นับถือศาสนาพุทธ 100%
-ประชาชนส่วนใหญ่ใช้ภาษาท้องถิ่น คือ
ภาษาอีสาน
-ประเพณีที่สำคัญของหมู่บ้าน คือ ประเพณีฮีตสิบสองครองสิบสี่
ด้านการปกครองหมู่บ้าน
การปกครอง มีนายกิตติศักดิ์ อ่อนวรรณะ เป็นผู้ใหญ่บ้าน และมีคณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 23 คน แบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายอำนวยการ มีนายกิตติศักดิ์ อ่อนวรรณะ เป็นประธาน ฝ่ายรักษาความสงบ นายไพศาล โกศล ประธาน ฝ่ายสุขภาพและอนามัย มีนายอำมาลา ศรีมาบุตร เป็นประธาน บ้านหนองหิน ได้แบ่งคุ้มการปกครองออกเป็น 8 คุ้ม ดังนี้
การปกครอง มีนายกิตติศักดิ์ อ่อนวรรณะ เป็นผู้ใหญ่บ้าน และมีคณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 23 คน แบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายอำนวยการ มีนายกิตติศักดิ์ อ่อนวรรณะ เป็นประธาน ฝ่ายรักษาความสงบ นายไพศาล โกศล ประธาน ฝ่ายสุขภาพและอนามัย มีนายอำมาลา ศรีมาบุตร เป็นประธาน บ้านหนองหิน ได้แบ่งคุ้มการปกครองออกเป็น 8 คุ้ม ดังนี้
1.
คุ้มพัฒนาการเกษตร
หัวหน้าคุ้ม คือ นายอำพร อ่อนวรรณะ
มีครัวเรือน จำนวน 23
ครัวเรือน
มีจุดเรียนรู้การเลี้ยงกบในบ่อพลาสติก
วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่ นางสมพร
อ่อนวรรณะ
2.
คุ้มทรัพย์เจริญ
หัวหน้าคุ้ม คือ นายทองคำ อักโข
มีครัวเรือน จำนวน 20
ครัวเรือน จุดเรียนรู้การทอเสื่อด้วย
ใบเตยหนาม และไหล วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่ นางหนม ศรีหาเวช
ใบเตยหนาม และไหล วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่ นางหนม ศรีหาเวช
3.
คุ้มเกษตรเจริญ
หัวหน้าคุ้ม คือ นายสมพงษ์ เจริญ
มีครัวเรือน จำนวน 19 ครัวเรือน จุดเรียนรู้การทำกระถางจากยางรถยนต์
และทำไม้ไพรหญ้าด้วยหญ้าคา
วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่ นายจุ่น
คำภูดีและนาทองคำ บุญบำเรอ
4.
คุ้มตะวันฉาย
หัวหน้าคุ้ม คือ นายบุญเลิศ สุขวงค์ มีครัวเรือน จำนวน 7 ครัวเรือน
จุดเรียนรู้การเลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่
นายสำเร็จ คุชิตรา
5. คุ้มมิตรไมตรี
หัวหน้าคุ้ม
นายพงษ์ อัมภรัตน์ จำนวน 24
ครัวเรือน
จุดเรียนรู้การจักรสารวัสดุด้วยไม้ไผ่
เช่น ลอบใส่ปลา,ลันใส่ปลาไหล
วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่ นายโม่
มาศกุล
6.
คุ้มมิตรสัมพันธ์
หัวหน้าคุ้ม นายชวน สุขใส จำนวน 19 ครัวเรือน จุดเรียนรู้การเลี้ยงไก่พื้นบ้าน
วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่ นายชวน
สุกใส
7. คุ้มสมานไมตรี
หัวหน้าคุ้ม นายซ้าย อ่อนวรรณะ จำนวน 17 ครัวเรือน จุดเรียนรู้การทอผ้าพื้นเมือง
วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่ นางหวัน
อ่อนวรรณะ
8.
คุ้มประชานิยมสามัคคี
หัวหน้าคุ้ม
นายชาญ พิมเสน จำนวน 6 ครัวเรือน จุดเรียนรู้การเลี้ยงเป็ดพันธ์ไข่
วิทยากรประจำจุดเรียนรู้ ได้แก่ นางชืน
พิมเสน
ประชากรและครัวเรือน
บ้านหนองหิน
มีครัวเรือนทั้งหมด 134 ครัวเรือนมีประชากรทั้งหมด 590 คน
แบ่งเป็นชาย301 คน และหญิง 289 คน ประชากรมีรายได้เฉลี่ย 37,130 บาท / คน / ปี (จปฐ. ปี 2558)อาชีพหลัก (รายได้หลัก)
ของคนในหมู่บ้าน คือ ทำนา อาชีพรอง
(รายได้รอง) ของคนในหมู่บ้านคือ ค้าขาย
รับจ้าง อาชีพเสริม (ทำกิน ทำใช้ในครัวเรือน/รายได้เสริม) ของคนในหมู่บ้าน
คือการเพาะเห็ด การปลูกพริก
ข้อมูลกลุ่ม/องค์กรที่มีในหมู่บ้าน
ที่
|
ชื่อกลุ่ม
|
ปีที่จัดตั้ง
(พ.ศ.) |
สมาชิก
|
ประธาน
|
กิจกรรมที่ดำเนินการ
|
ทุนหมุนเวียน
|
1.
|
กองทุนหมู่บ้านและชุมชน
|
2544
|
83
|
นายกิตติศักดิ์ อ่อนวรรณะ
|
ปล่อยกู้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในหมู่บ้าน
|
1,200,000
|
2.
|
โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.)
|
2544
|
61
|
นายกิตติศักดิ์ อ่อนวรรณะ
|
ส่งเสริมสนับสนุนเงินทุนในการประกอบอาชีพ
|
280,000
|
3..
|
กลุ่มสตรี
|
2548
|
45
|
นางลัดดา อ่อนวรรณะ
|
-การทอเสื่อจากเตยหนาม และต้นกก
- กาทอผ้าไหม
- การตัดเย็บ
|
100,000
|
ข้อมูลผู้รู้ / ปราชญ์ / แกนนำสำคัญของชุมชน
ที่
|
ชื่อ -
สกุล
|
ที่อยู่
|
ความรู้
/ ความสามารถโดดเด่น
|
1.
|
นาสา นาคำรอด
|
บ้านเลขที่ 81 ม.6
|
ประเพณีท้องถิ่น
และกิจกรรมของหมู่บ้าน
|
2.
|
นายโม่ มาสกุล
|
บ้านเลขที่ 96 ม.6
|
การจักรสานไม้ไผ่ กระติบข้าว กระด้ง
หวด ไซ
|
3.
|
นายนายจวง เนียมพันธ์
|
บ้านเลขที่ 85 ม.6
|
งานฝีมือช่างปูน ช่างไม้
|
4.
|
นายประฏิเสก อ่อนวรรณะ
|
บ้านเลขที่ 127 ม.6
|
งานฝีมือ ช่างปูน ช่างไม้ ซ่อมรถยนต์
|
5.
|
นายทองคำ บุญบำเรอ
|
บ้านเลขที่ 71 ม. 6
|
ด้านการเกษตร
การทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
|
6.
|
นางสุภาพร ไพโรจน์
|
บ้านเลขที่ 53 ม. 6
|
การถนอมอาหาร การทำอาหารพื้นบ้าน
|
7.
|
นายจุ่น ทาคำสุฃ
|
บ้านเลขที่ 56 ม.6
|
ประเพณีและวัฒนธรรม
|
8.
|
นายซ้าย อ่อนวรรณะ
|
บ้านเลขที่ 2
ม.6
|
ไม้ไพรหญ้าจากหญ้าคา
|
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
-หนองน้ำสาธารณะ 1 แห่ง ได้แก่
1. หนองหิน
อยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน
- ป่าสาธารณะ
1.
มีป่าสาธารณะ 1 แห่ง
เนื้อที่ประมาณ 18 ไร่
(ป่าช้า)
ข้อมูลด้านบริการขั้นพื้นฐาน/สาธารณะชุมชน
โรงเรียน ๑ แห่ง
๑. โรงเรียนหนองหิน
หอกระจายข่าว
๑ แห่ง ได้แก่
๑.
หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน
สนามกีฬา
๑ แห่ง ได้แก่
1. สนามกีฬาโรงเรียนหนองหิน
ศาลากลางหมู่บ้าน/ศูนย์เรียนรู้ 1 แห่ง ได้แก่
1. ศาลาอเนกประสงค์กลางบ้าน
ศิลปะ
วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตของชุมชน
เป็นสังคมเกษตรกรรม
มีวัฒนธรรมและประเพณีแบบอีสานตอนล่าง พูดภาษาอีสาน นับถือศาสนาพุทธ อยู่ร่วมกันแบบชนบทนั่นคือ
การกินอยู่เรียบง่าย พึ่งพาอาศัยกัน
มีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันระหว่างเพื่อนบ้านใกล้เคียง
คนหนุ่มสาวส่วนมากไปทำงานต่างถิ่น เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น